Sunday, January 10, 2010

LPN open 8 project 13 billion ตลาดคอนโดคึกรับแผนบีโอไอ แอลพีเอ็นผุด8โครงการโกยขาย1.3หมื่นล้าน

"แอลพีเอ็น" ประกาศลุยโครงการใหม่ 6-8 โครงการ หวังโกยยอดขายสิ้นปีทะลุ 13,000 ล้าน โชว์ยอดขายปี 52 พุ่งสวนกระแสเศรษฐกิจทรุดกวาดยอดขายกว่า 10,000 ล้าน ล่าสุดแย้มแผนรุกเน้นสร้างแบรนด์เข้าถึงผู้บริโภค หวังสร้างความต่างในตลาด เลิกเน้นกลยุทธ์ขายถูก เล็งตลาดคอนโดฯ ยังรุ่ง มาตรการบีโอไอหนุน
นายโอภาส ศรีพยักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 6-8 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทเข้าทำตลาด เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัย โดยในส่วนของไตรมาสแรกมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เข้ามาทำตลาดจำนวน 3 โครงการ คือ ลุมพินี คอนโดทาวน์ บางแค, ลุมพินี เพลส พระราม 9 เฟส 2 และลุมพินี เพลส พหลฯ-รัชดาฯ ซึ่งภายหลังจากที่บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปีมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายได้ประมาณ 13,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 20%

สำหรับภาพรวมรายได้ปีที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายกว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2551 ที่ 20% ส่งผลให้มียอดรับรู้รายได้กว่า 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% แม้เกิดปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง แต่บริษัทยังสามารถผลักดันยอดขายเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากบริษัทปรับแผนการตลาดด้วยการหันมาควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจากแผนการดำเนินการดังกล่าวประกอบกับบริษัทได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากการเปิดตัวโครงการใหม่เข้าทำตลาด โดยเฉพาะโครงการลุมพินีคอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์, ลุมพินี พาร์ค ปิ่นเกล้า และลุมพินี วิลล์ ลาดพร้าว-โชคชัย 4 ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึงกว่า 30%

"แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ นอกจากเน้นการเปิดตัวโครงการใหม่เข้าทำตลาดแล้ว บริษัทจะเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์ของแอลพีเอ็นให้เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ด้วยการทำกิจกรรมการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ซึ่งจากเดิมเน้นเรื่องทำเลและการสร้างคอนโดฯ ราคาถูกเป็นหลัก เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าที่เข้ามาพักอาศัยคอนโดฯ ของแอลพีเอ็นแล้วกว่า 1 แสนคน เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนวิกฤติเศรษฐกิจที่มีลูกค้าหลักหมื่นคนเท่านั้น" นายโอภาสกล่าว

ส่วนแนวโน้มของตลาดคอนโดมิเนียมในปีนี้ยังคงมีอัตราการเติบโตดี เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่มีที่พักอาศัยเป็นของตัวเองและต้องการซื้อคอนโดมิเนียมอีกมาก ประกอบกับปีนี้มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งจะเป็นตัวผลักดันให้ธุรกิจอาคารชุดพักอาศัยระดับล่างเติบโตมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน จากการที่ปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายชะลอการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เข้าทำตลาด เชื่อว่าในปีนี้ผู้ประกอบการจะออกมาเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่มากขึ้น และส่งผลให้ตลาดเติบโตหากไม่มีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองเกิดขึ้น

รายงานข่าวระบุว่า ช่วงปี 52 จำนวนที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มขึ้นถึง 9,426 หน่วย แบ่งเป็นอาคารชุดที่มีทำเลใกล้ศูนย์การค้าและระบบขนส่งขนาดใหญ่ 7,784 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 83% จากจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ทั้งหมด บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 1,117 ยูนิต ทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์ 525 ยูนิต.

9 มกราคม 2553 - 00:00 ไทยโพสต์

No comments:

Post a Comment